วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความร่วมมือแก้ไขความขัดแย้ง

ประเภทของความร่วมมือ ความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของมนุษยชาติ ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ  จำแนกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

1. ความร่วมมือทางการเมือง เช่น องค์การอาเซียน (ASEAN) ส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกพัฒนาระบอบการเมืองภายในของตนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ดังกรณีของประเทศพม่าที่ถูกนานาชาติกดดันให้ปลดปล่อยนางอองซาน ซูจี ผู้นำต่อต้านการปกครองเผด็จการในพม่าให้เป็นอิสระ

2. ความร่วมมือทางการทหาร เช่น สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในการจัดตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (หรือ NATO) เพื่อความร่วมมือทางด้านการทหารและความมั่นคงร่วมกันระหว่างประเทศในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป ในปัจจุบันมีชาติสมาชิก 19 ประเทศ

3. ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ มีลักษณะเป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศและเขตการค้าเสรี  เช่น สหภาพยุโรป (EU), นาฟตา (NAFTA) และ อาฟตา (AFTA) เป็นต้น

4. ความร่วมมือทางด้านการศึกษา วัฒนธรรม และอื่น ๆ เช่น องค์การยูเนสโก (UNESCO) หรือองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
ยูนิเซฟ (UNICEF) หรือกองทุนเด็กแห่งประชาชาติ เป็นต้น

แนวทางการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ  มี 2 ลักษณะ ดังนี้

1. การสร้างความร่วมมือในเชิงสร้างสรรค์ (Positive)  เป็นแนวทางโดยสันติวิธีและเกิดผล
อย่างยืนยาว มีดังนี้
1. การจัดตั้งองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN)  และองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น
2. การจัดทำกฎหมายระหว่างประเทศ หรือข้อตกลงร่วมกัน เช่น ข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน กฎหมายอาชญากรสงคราม เป็นต้น
3.  การทูต มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตขั้นปกติ  มีสถานเอกอัครราชทูตและเอกอัครราชทูตทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศ
4.  การควบคุมและลดกำลังอาวุธ มีการเจรจาจำกัดการสะสมหรือการทดลองขีปนาวุธต่าง ๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความหวาดระแวงต่อกัน
5. ความร่วมมือทางด้านกีฬา ศิลปวัฒนธรรม และด้านอื่น ๆ เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก (Olympic) การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ เป็นต้น

2. การสร้างความร่วมมือที่ไม่สร้างสรรค์  (Negative)  เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่ไม่ใช้แนวทางสันติวิธี แต่เป็นลักษณะการต่อต้านและใช้กำลัง หรือไม่ติดต่อคบค้าด้วย (Boycott)


1. กรณีสหรัฐอเมริการ่วมมือกับชาติพันธมิตร เช่น อังกฤษ อิตาลี ฯลฯ ใช้กำลังทางทหารเข้าแทรกแซงในอิรัก เพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน (Saddam Hussein) เมื่อปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) โดยอ้างว่าผู้นำอิรักสนับสนุนการผลิตขีปนาวุธที่เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพของโลก

2.  การใช้กำลังทางทหารเข้าบังคับ หรือการทำสงคราม   มี 2 ระดับ คือ
 (1) สงครามจำกัดขอบเขต  (Limited War) โดยใช้กำลังทางทหารเข้าปฏิบัติการในระยะเวลาและพื้นที่อันจำกัด เพื่อมิให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหายมากนัก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามปฏิบัติตามนโยบายของตนเท่านั้น เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์ก็ถอนตัวกลับ เช่น สงครามขับไล่อิรักออกจากการยึดครองคูเวตของกองกำลังสหประชาชาติ (UN) โดยการนำของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.1990
(2) สงครามเบ็ดเสร็จ  (Absolute War) เป็นสงครามที่ประเทศมหาอำนาจใช้กำลังทางทหารเข้ายึดและครอบครองดินแดนแห่งนั้นไว้ตลอดไป โดยเข้าไปจัดระเบียบการปกครองใหม่ตามความต้องการของตน และตักตวงผลประโยชน์จากทรัพยากร ธรรมชาติและอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน ฯลฯ ในช่วงการขยายตัวของลัทธิจักรวรรดินิยมในคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 เป็นต้น

8 ความคิดเห็น:

  1. อัจฉรา11/15/2555

    เนื้อหาดี และ มีรูปภาพประกอบทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

    ตอบลบ
  2. เกียรติคุณ11/17/2555

    เนื้อหาดีอ่านแล้วเข้าใจ

    ตอบลบ
  3. พิมพักตร์11/18/2555

    อ่านง่าย ทำให้เข้าใจง่าย

    ตอบลบ
  4. โก้พริ้ว11/18/2555

    มีภาพประกอบ ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

    ตอบลบ
  5. ชุดา11/18/2555

    สวยงาม รูปภาพทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

    ตอบลบ
  6. ยุวดี11/20/2555

    เนื้อหากระทัดรัดดีนะคะ

    ตอบลบ
  7. จิระเดช11/20/2555

    เนื้อหาเข้าใจง่ายดีนะครับ

    ตอบลบ
  8. ณิชกมล11/20/2555

    แบ่งเนื้อหาได้ดี

    ตอบลบ